BEHRINGER

จัดทำโดย นางสาว บุญสิตา อินทร์พรม  รหัสนักศึกษา 6031280051

ระบบเสียง Sound/Audio Systems


 หมายถึงการนำอุปกรณ์เครื่องเสียงต่างๆมาต่อเชื่อมกันให้ทำงานอย่างเป็นระบบ
     จึงเป็นการรวบรวมอุปกรณ์เกี่ยวกับเสียงที่มีความสัมพันธ์กันมาจัดให้เกิดความสมดุลย์ในการเชื่อมต่อเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
หากแบ่งตามจุดประสงค์การใช้งานด้านเสียงจะแบ่งระบบเสียงตามการใช้งานได้ดังต่อไปนี้
    1 ระบบกระจายเสียงสาธารณะ Public address  หรือทีรู้จักกันดีว่าว่าระบบ PA เป็นงานระบบเสียงที่ต้องกำหนดบริเวณหรือจุดหวังผลที่ต้องการกระจายเสียงและคุณลักษณะของเสียงที่ต้องการกระจาย เพื่อออกแบบระบบและเลือกใช้อุปกรณ์เสียงต่างๆให้ถูกต้องโดยเฉพาะด้านกำลังขยายเสียงที่ต้องใช้ การจัดย่านความถี่เสียง และตำแหน่งของลำโพง ซึ่งอาจจัดขนาดของระบบตามลักษณะของปริมาณเสียงที่ใช้ในระบบ    2 ระบบเสียงเพื่อความบันเทิง Entertainment  มีวัตถุประสงค์เพื่อความบันเทิงของกลุ่มบุคคลที่ต้องการฟังเสียงจากระบบนั้น อาจเป็นการประกอบการแสดงต่างๆ การร้องเพลง หรือเต้นรำ และความบันเทิงอื่นๆ จึงต้องจัดระบบให้เหมาะสมตามกิจกรรม และระวังปัญหาเรื่องผู้ที่ไม่ต้องการฟังเสิยงหรือไม่ร่วมกิจกรรมบันเทิงนั้นๆ จึงเน้นความสำคัญเรื่องสถานที่จัดงานบันเทิงหรือ Entertainment venue เพื่อระบบเสียงที่ดีด้วย    3 ระบบเสียงเพื่อการประชุมและการอบรมสัมนา    มีการบรรยายและแสดงข้อมูลต่างๆ และซักถามโต้ตอบในการประชุมอภิปรายต่างๆ หรือมีการเรียนการสอนแบบปฏิสัมพันธ์ จึงต้องมีการออกแบบเรื่องการสื่อสารสองทางหรือ Two-way communication และกำหนดลักษณะการประชุมเพื่อจัดตำแหน่งและคุณสมบัติของอุปกรณ์ในระบบเสียงต่างๆให้ถุกต้อง ถ้าหากเป็นงานขนาดใหญ่อาจต้องใช้สถานที่เฉพาะเช่น Conference centre เพื่อความสะดวกในการออกแบบติดตั้งระบบเสียง     4 ระบบเสียงเพื่อการสื่อสารข้อมูลและประชาสัมพันธ์    อาจคล้ายคลึงกับข้อ 2.1 และ 2.3 ในบางส่วน  แต่มีการกำหนดควบคุมพื้นที่เพื่อเลือกรับส่งข้อมูลเสียง    5 ระบบเสียงเคลื่อนที่เอนกประสงค์โดยแต่ละระบบดังกล่าว อาจมีการใช้อุปกรณ์ร่วมกันหรือผสมระบบกันได้ หากมีจุดประสงค์การใช้งานหลากหลายหรือไม่เฉพาะเจาะจง
ระบบเสียง ถือเป็นระบบที่ต้องอาศัยความรู้ด้านวิศวกรรมศาตร์เกี่ยวกับเสียงหรือ Audio engineering มาประยุกต์ใช้ในการสร้างระบบเพื่อตอบสนองการใช้งานด้านเสียงโดยเฉพาะ และ อาจมีการใช้งานร่วมกับระบบภาพและแสง และต้องมีการรวมระบบหรือ System integration เข้าด้วยกันเป็นระบบภาพและเสียง หรือ Audio-visualหรือที่ผู้ใช้สื่อเรียกว่า มัลติมีเดีย Multimedia และบางครั้งอาจรวมระบบควบคุมแสง หรือ Lighting control system เข้ามาด้วยโดยเรียกรวมกันว่าระบบ AVL

ระบบเสียงประกาศ

ระบบเสียงประกาศ หรือ ระบบกระจายเสียง ที่นิยมเรียกกันว่า PA System หรือ เครื่องเสียงกลางแจ้ง (ย่อมาจาก Public Address System) นั้นสำคัญอย่างไร หลายๆท่านคงรู้จักและคุ้นเคยกับระบบเสียงประกาศกันอยู่บ้าง เพราะเป็นสิ่งที่ถือได้ว่าอยู่ใกล้ตัวเรา เพราะไม่ว่าเราไปเดินที่ไหนในห้าง โรงพยาบาล โรงแรมหรือแม้แต่สถานที่สาธารณะต่างๆ เรามันจะได้ยินเสียงประกาศส่งข้อความต่างๆผ่านระบบเสียงให้เราได้ยินกัน ถามว่าไม่มีได้หรือไม่? ตอบได้เลยว่าจะมีหรือไม่มีก็ได้แต่ด้วยเหตุผลและปัจจัยต่างๆมากมายที่ทำให้เราตัดสินใจได้ว่าเราควรจะต้องติดตั้งระบบเสียงประกาศหรือไม่อันดับแรกเลยคือ ขนาดของพื้นที่ มีผลต่อการรับรู้ข่าวสาร ถ้าเป็นพื้นที่ขนาดเล็กเช่นห้องทำงานภายในออฟฟิตเล็กๆที่มีห้องแค่ไม่กี่ห้องและจำนวนชั้นที่ไม่มาก เราก็ไม่จำเป็นต้องมีระบบเสียงประกาศก็ได้เพราะตะโกนเอาก็ได้ยิน แต่ถ้าเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่มีโซนของพื้นที่แยกเป็นสัดส่วนแบบนี้ต้องมีระบบเสียงประกาศแน่นอนเพราะเราไม่สามารถสื่อสารได้ได้ทั่วถึง เราเลยต้องมีตัวช่วยกระจายเสียงไม่ว่าจะเป็นการแจ้งข่าวสารหรือการเตือนภัยอีกทั้งเรายังสามารถแบ่งออกเป็นโซนในการประกาศเพื่อไม่ให้เสียงไปรบกวนพื้นที่อื่นได้อีก ส่วนเราจะออกแบบการทำงานแบบไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของเราว่าอยากให้ระบบออกมาเป็นยังไง ประกาศข่าวสารอย่างเดียวหรือมีเพลงเปิดคลอบรรยากาศในระหว่างที่จะประกาศข้อมูลข่าวสารก็ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้มันจะเป็นข้อบ่งบอกถึงชนิดและจำนวนของอุปกรณ์ที่เราจะใช้ในงานนั้นๆ

อุปกรณ์พื้นฐานของระบบเสียงประกาศ

1. ไมค์โครโฟน (Microphone) 

ในระบบเสียงประกาศมีไมค์โครโฟนหลักๆอยู่ 2 แบบ คือแบบธรรมดาทั่วไปจะใช้ไมค์โครโฟนแบบตั้งโต๊ะหรือไมค์ธรรมดาทั่วไปก็ได้ และอีกแบบหนึ่งคือไมค์โครโฟนแบบที่สามารถเลือกพื้นที่สำหรับประกาศได้ เพื่อต้องการประกาศเฉพาะบางพื้นที่ทำให้ไม่ไปรบกวนพื้นที่อื่น เราต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานถ้าเราต้องการประกาศรวมทั้งหมดก็ไม่มีเหตุจำเป็นที่ต้องใช้ไมค์โครโฟนแบบเลือกโซนได้
ระบบประกาศเสียงตามสาย_1

2. เครื่องผสมสัญญาณเสียง (Mixer) 

สิ่งสำคัญในการเลือกเครื่องผสมสัญญาณคือจำนวนต้นทางของแหล่งกำเนิดเสียงว่ามีเท่าไหร่เราก็สามารถเลือกช่องสัญญาณให้เหมาะสมได้ เครื่องผสมสัญญาณเสียงบางตัวมีระบบขยายในตัวก็สามารถใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องซื้อเครื่องขยายเสียงเพิ่มแต่อย่างใด อีกทั้งมีช่องสัญญาณขาออกที่สามารถแบ่งโซนได้เลยโดยไม่ต้องเพิ่มเครื่องเลือกโซนแต่อย่างใด

3. เครื่องขยายเสียง (PA Amplifier) 

การเลือกใช้ก็เลือกให้เหมาะสมกับจำนวนวัตต์ของลำโพงที่มีอยู่ในระบบ โดยจำนวนวัตต์ของลำโพงทั้งหมดรวมกันต้องไม่มากกว่าจำนวนวัตต์ของเครื่องขยายเสียง


4. ลำโพง (Speaker) 

ในระบบเสียงประกาศนั้นมีลำโพงให้เลือกใช้เยอะแยะมากมายตามรูปแบบการติดตั้ง เช่น ลำโพงชนิดฝังฝ้า ลำโพงแบบตู้ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ลำโพงแบบฮอร์น ถ้าเรารู้ว่าพื้นที่ๆเราจะไปติดตั้งเป็นแบบไหนเราก็จะสามารถเลือกชนิดของลำโพงได้ และลำโพงที่ใช้ในระบบเสียงประกาศก็ยังเป็นลำโพงชนิดพิเศษที่สามารถกันน้ำกันฝุ่นได้ โดยมาตรฐานก็จะแตกต่างกันไปเช่น IP44, IP66 เป็นต้น

รูปแบบการต่อระบบเสียงประกาศเบื้องต้น

diagram_ระบบเสียงประกาศ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โปรเจคเตอร์ (Projector)

สแกนเนอร์

หน่วยที่ 5